top of page

ทันตกรรมจัดฟัน

การลงทุนที่คุ้มค่ากับรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพฟันที่ดี

การจัดฟันไม่ได้เพียงแค่เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการปรับปรุงสุขภาพช่องปากโดยรวม ทั้งการแก้ไขการสบฟันผิดปกติ และการปรับตำแหน่งของฟันให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้การทำความสะอาดฟันได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเหงือกและฟันผุ นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาการบดเคี้ยวที่ไม่เหมาะสมซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพข้อต่อขากรรไกรในระยะยาว

IMG_7407.JPG

ทำไมต้องจัดฟัน?

การจัดฟันมักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องของวัยรุ่นที่ใส่เหล็กดัดฟัน แต่จริงๆ แล้ว การจัดฟันไม่ได้จำกัดแค่ในวัยเด็กหรือวัยรุ่นเท่านั้น คนวัยผู้ใหญ่ก็สามารถทำได้เช่นกัน การจัดฟันไม่เพียงแค่ช่วยให้ฟันเรียงสวยงาม แต่ยังมีประโยชน์ในด้านสุขภาพที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน หากคุณกำลังพิจารณาการจัดฟัน ไม่ว่าจะเป็นการใส่เหล็กดัดฟันแบบดั้งเดิม หรือเครื่องมือจัดฟันใส (Invisalign) นี่คือเหตุผลว่าทำไมการจัดฟันจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในการดูแลสุขภาพช่องปากและชีวิตประจำวันของคุณ

1. สุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น

หนึ่งในประโยชน์หลักของการจัดฟันคือการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีกว่าเมื่อฟันของคุณจัดเรียงอย่างถูกต้อง ฟันที่ซ้อนเกอาจทำให้ทำความสะอาดยาก โดยเฉพาะในจุดที่แปรงฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การสะสมของคราบจุลินทรีย์และเกิดฟันผุ หรือโรคเหงือก การจัดฟันจะช่วยให้ทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงจากฟันผุและโรคเหงือกในระยะยาว

2. การทำงานของขากรรไกรและการกัดที่ดีขึ้น

การจัดฟันช่วยให้การสบฟันดีขึ้น ทำให้การกัดและการเคี้ยวอาหารเป็นไปอย่างถูกต้อง  การสบฟันที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดความยากลำบากในการเคี้ยวอาหาร การจัดฟันช่วยปรับปรุงการทำงานของขากรรไกร ทำให้การเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

3. ลดความเสี่ยงของปัญหาข้อขากรรไกร

ฟันและขากรรไกรที่ไม่ตรงกันอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดที่ข้อต่อขากรรไกร (เช่น โรคข้อต่อขากรรไกร หรือ TMD) ซึ่งอาจแสดงอาการออกมาในรูปแบบของอาการปวดหัว ปวดกราม หรือปวดไหล่ การจัดฟันสามารถช่วยแก้ไขความไม่สมดุลนี้และลดความเสี่ยงของปัญหาเหล่านี้ได้

4. ป้องกันการสึกหรอของฟัน

ฟันที่ไม่ตรงกันอาจทำให้เกิดการเสียดสีที่ไม่สมดุลในระหว่างการเคี้ยว ซึ่งอาจทำให้ฟันบางซี่สึกหรอได้เร็วขึ้น การจัดฟันช่วยให้การบดเคี้ยวเป็นไปอย่างมีสมดุล ช่วยลดการสึกหรอของฟัน และยืดอายุการใช้งานของฟันได้

5. การพูดและการสื่อสารที่ดีขึ้น

ในบางกรณีที่การเรียงตัวของฟันส่งผลในทางลบต่อการออกเสียง การจัดฟันสามารถช่วยปรับปรุงให้การพูดชัดเจนขึ้น การจัดฟันช่วยให้การออกเสียงดีขึ้น และทำให้การสื่อสารในชีวิตประจำวันมีประสิทธิภาพมากขึ้น

6. เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง

นี่คือเหตุผลหลักที่หลายคนเลือกจัดฟัน—เพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ของตัวเอง ฟันที่เรียงตัวสวยงามช่วยให้รอยยิ้มของคุณดูดีและเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง

7. ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

แม้ว่าการจัดฟันอาจดูเหมือนเป็นการลงทุนที่มีค่าใช้จ่ายสูงในตอนแรก แต่ในระยะยาวจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ การมีฟันที่ไม่ตรงหรือปัญหาที่เกิดจากฟันไม่สมบูรณ์อาจทำให้คุณต้องรักษาอย่างอื่นในอนาคต เช่น การอุดฟัน การทำครอบฟัน หรือการถอนฟัน การจัดฟันตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและลดความเสี่ยงในการรักษาฟันที่แพงขึ้น

8. สุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น

คุณอาจไม่เคยรู้ว่า สุขภาพช่องปากมีผลโดยตรงต่อสุขภาพโดยรวม การศึกษาหลายๆ ฉบับพบว่าปัญหาฟันและเหงือกสามารถเชื่อมโยงกับโรคหัวใจ เบาหวาน หรือปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ การจัดฟันสามารถช่วยให้คุณดูแลช่องปากได้ดีขึ้น ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพโดยรวม

ขั้นตอนการรักษา

01

ปรึกษา และรับการตรวจวิเคราะห์

ขั้นตอนแรกของการจัดฟันคือการนัดหมายเพื่อเข้ามาปรึกษากับทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน โดยในขั้นต้นคุณหมอจะประเมินปัญหาของฟัน การเรียงตัวของฟัน และการสบฟัน และให้คำปรึกษาแนะนำแนวทางการรักษาจัดฟันในขั้นต้น

หากคนไข้ตัดสินใจรับการรักษา คุณหมอจะทำการถ่ายภาพรังสีในช่องปากเพื่อตรวจสภาพฟัน และภาพรังสีนอกช่องปากเพื่อวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าและขากรรไกร รวมทั้งถ่ายภาพฟันและใบหน้า พิมพ์ปากเพื่อทำโมเดลจำลองของฟัน และนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ เพื่อวางแผนการรักษาจัดฟัน

02

เตรียมช่องปากก่อนการจัดฟัน

จากการตรวจละเอียดในขั้นตอน 01 หากพบว่ามีฟันผุหรือฟันที่ต้องได้รับการรักษาอื่นๆ จะแนะนำให้คนไข้รักษาฟันให้เสร็จก่อนเริ่มจัดฟัน เนื่องจากการทำการรักษาทีหลังระหว่างที่มีเครื่องมือจัดฟันติดอยู่ทำได้ยาก อีกทั้งอาจะมีการลุกลามของฟันผุมากขึ้นหากไม่รีบรักษาแต่เนิ่นๆ

นอกจากนี้ อาจมีการถอนฟันในขั้นตอนนี้ หากทันตแพทย์วิเคราะห์แล้วว่าเป็นการจัดฟันที่จำเป็นต้องมีการถอนฟันร่วม

03

ติดเครื่องมือจัดฟัน

หลังจากเตรียมช่องปากแล้ว ทันตแพทย์จะทำการติดเครื่องมือจัดฟัน โดยเครื่องมือจัดฟันมีหลายประเภท อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

หลังติดเครื่องมือจัดฟันไปประมาณ 4-6 ชั่วโมงจะเริ่มมีอาการปวดฟัน อาการปวดฟันนี้เกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายที่ตอบสนองต่อการเคลื่อนฟัน อาการปวดจะเป็นในช่วงอาทิตย์แรก หลังจากนั้นอาการจะดีขึ้น 

04

ปรับเครื่องมือจัดฟันและติดตามอาการ

หลังติดเครืองมือจัดฟันไปแล้วทันตแพทย์จะนัดมาปรับเครื่องมือจัดฟัน และติดตามการเคลื่อนที่ของฟันทุกเดือน การมาพบทันตแพทย์ต่อเนื่องตามนัดเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะจะทำให้การรักษาต่อเนื่อง และได้ผลการรักษาที่ดี

05

ถอดเครื่องมือจัดฟัน และใส่รีเทนเนอร์

หลังจากที่ฟันเรียงตัวในตำแหน่งที่ดีและการรักษาเสร็จสมบูรณ์แล้ว ทันตแพทย์จะทำการถอดเครื่องมือจัดฟัน และทำเครื่องมือรีเทนเนอร์ เครื่องมือรีเทนเนอร์เป็นเครื่องมือสำหรับคงสภาพฟันหลังการจัดฟัน เพราะหากไม่มีเครื่องมือคงสภาพฟันนี้ฟันอาจจะเคลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเดิมก่อนการจัดฟันได้ ระยะเวลาการใส่รีเทนเนอร์ขึ้นกับลักษณะการเรียงตัวของฟันก่อนจัดฟันในแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตามในช่วงแรกทันตแพทย์จะแนะนำให้ใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลายกเว้นเวลาทานข้าวและแปรงฟัน และค่อยๆลดจำนวนชั่วโมงในการใส่รีเทนเนอร์เมื่อฟันคงสภาพดียิ่งขึ้น

ในช่วงที่ใส่รีเทนเนอร์นี้ ทันตแพทย์ยังคงนัดหมายทุก 3-6 เดือนเพื่อเข้ามาตรวจเช็คสภาพฟัน และสภาพรีเทนเนอร์ รวมถึงให้คำแนะนำในการใส่รีเทนเนอร์

ทีมทันตแพทย์จัดฟันของเรา

ทำการนัดหมายเพื่อปรึกษากับทันตแพทย์

bottom of page